DHA นั้น สำคัญไฉน?

ดีเอชเอ เป็นชื่อเรียกหนึ่งของ กรดโดโคซาเฮกซาอีโนอิก ซึ่งอันที่จริงแล้วก็คือไขมันชนิด โอเมก้า 3 ที่ช่วยส่งเสริมการเติบโตของร่างกายและพัฒนาการของสมองและดวงตา ไขมันโอเมก้า 3 มีส่วนสำคัญที่จะเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับสมองและดวงตา โดยมีการพบปริมาณไขมันโอเมก้า 3 ในอวัยวะทั้งสองนี้คิดเป็นสัดส่วนถึง 97% และ 93% ตามลำดับ

ในช่วงขวบปีแรก ถือเป็นเวลาสำคัญในการพัฒนาสมอง และดวงตาของเด็กๆ ทารกน้อยที่ได้รับน้ำนมมารดาจะได้รับสาร DHA ผ่านทางน้ำนมแม่ซึ่งเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยคุณค่าและประโยชน์สูงที่สุด ยิ่งถ้าหากแม่มีโภชนาการที่ดี อย่างเช่น แม่ที่รับประทานปลาแซลมอนเสมอๆ ก็จะยิ่งเสริมสร้างความเข้มข้นให้กับน้ำนม แต่ถ้าหากทารกน้อยรับน้ำนมเสริม ก็ควรจะเป็นนมที่มีส่วนประกอบของ DHA ในปริมาณที่เหมาะสม

DHA ลูทีน และวิตามินอี กองทัพเสริมความแข็งแรง

ดีเอชเอ เป็นส่วนประกอบสำคัญของเซลล์สมอง รวมถึงเซลล์ที่ทำหน้าที่ในการพัฒนาสมองและดวงตา แต่ดีเอชเอ อาจถูกทำลายจากปฏิกิริยาออกซิเดชั่นได้ด้วยเช่นกัน นมแม่ ซึ่งประกอบด้วยสารแอนไท ออกซิเดชั่น ได้แก่ ลูทีน และ วิตามินอี จึงเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยปกป้อง และเสริมสร้างการทำงานของดีเอชเอ

ลูทีน

ลูทีนเป็นสารประกอบชนิด แคโรทีนอยด์ คล้ายกับเบต้าแคโรทีน โดยในการศึกษาพบว่า ทารกที่ได้รับสารลูทีนทันทีเมื่อแรกเกิดจะช่วยลดอันตรายจากสารออกซิไดท์ ที่ทำให้เกิดการต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกายได้ โดยมีสัญญาณหลายประการที่บ่งบอกว่า ลูทีนเป็นสารประกอบที่มีส่วนสำคัญในการพัฒนาร่างกายของเด็กทารก ลูทีนเป็นสารแคโรทีนอยด์ที่พบมากทั้งในสมอง และจอประสาทตา และยังมีการค้นพบอีกว่าบริเวณที่มีสารลูทีนอยู่นั้นเป็นบริเวณที่สมองทำงานควบคู่ไปกับพัฒนาการด้านการเรียนรู้และจดจำ

ลูทีนพบได้ในอาหารอย่างเช่น ผักใบเขียว ข้าวโพด และไข่ และก่อนที่ลูกน้อยของคุณจะพร้อสำหรับอาหารเสริม เด็กๆ อาจสามารถได้รับลูทีนจากน้ำนมแม่

ข้อมูลอ้างอิง

- Perrone SP et al. Effects of Lutein on Oxidative Stress in the Term Newborn: A Pilot Study. Neonatology 2010; 97:36-40.

วิตามินอี

วิตามินอี เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่พบได้ในน้ำนมแม่ วิตามินอีที่มีการออกฤทธิ์ทางชีวภาพพบได้ในอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผักโขม พริกไทยแดง อโวคาโด ปลาแซลมอน และ อัลมอนด์ เป็นอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินอี

abbottcares.mobile

แนะนำ ปรึกษาโภชนาการและสุขภาพกับผู้เชี่ยวชาญ

0-2252-244808.30 น. - 17.30น. จันทร์-ศุกร์ เว้นวันหยุดราชการ

แนะนำ ปรึกษาโภชนาการและสุขภาพกับผู้เชี่ยวชาญ

Privacy Policy
Terms of Use